5. เราจะวิงวอนขอพระเป็นเจ้า พระบิดาของมนุษย์ทุกคนไม่ได้ถ้าหากเราไม่ยอมประพฤติตนฉันพี่น้องต่อเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าใคร เพราะพระเป็นเจ้าทรงสร้างเขามาตามพระฉายาของพระองค์.
ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระเป็นเจ้าผู้เป็นบิดาและความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้วยกันนั้นมีความเกี่ยวโยงถึงกันอย่างแน่นแฟ้นจนพระคัมภีร์กล่าวว่า ผู้ใดไม่รัก ก็ไม่รู้จักพระเป็นเจ้า (1 ยน. 4:8).
ดังนี้
ก็เท่ากับเป็นการโค่นทำลายรากฐานของทฤษฎีหรือการปฏิบัติใด ๆ ที่ถือการแบ่งแยกระหว่างมนุษย์กับมนุษย์และระหว่างชาติกับชาติในเรื่องศักดิ์ศรีและสิทธิต่าง ๆ ที่เกิดจากศักดิ์ศรีนั้น. ฉะนั้นพระศาสนจักรขอประณามว่า
การแบ่งแยกหรือเบียดเบียนรังแกใด ๆ ที่กระทำต่อมนุษย์เพราะเรื่องชาติ ผิวชั้นและศาสนาของเขานั้นเป็นการผิดต่อจิตตารมณ์ของพระคริสตเจ้า.
ด้วยเหตุนี้ตามรอบของอัครธรรมทูตเปโตรและเปาโลสภาสังคายนาขอวิงวอนบรรดาสัตบุรุษของพระคริสตเจ้าอย่างเร่าร้อนให้ ประพฤติตนให้เป็นที่น่าเคารพนับถือท่ามกลางชนชาติอื่น (1 ปต. 2:12) และถ้าเป็นได้
ขอให้อยู่เป็นปกติสุขกับเพื่อนมนุษย์ทุกคนเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะเป็นบุตรแท้ของพระบิดาผู้ทรงสถิตอยู่ในสวรรค์
ข้อความแต่ละข้อทั้งสิ้นที่ประกาศไว้ในสังฆธรรมนูญฉบับนี้ บรรดาปิตาจารย์ได้เห็นชอบแล้วทั้งนั้น
อาศัยอำนาจของท่านอัครธรรมทูต ซึ่งเราได้มอบจากพระคริสตเจ้า เราพร้อมกับบรรดาปิตาจารย์ที่เคารพเหล่านี้ ในพระจิตเจ้า จึงเห็นชอบกำหนดและตราไว้ และสิ่งใดที่สภาสังคายนาได้ตราขึ้น เราก็สั่งให้ประกาศใช้เพื่อเป็นเกียรติแด่พระเป็นเจ้า
กรุงโรม- ณ พระวิหารนักบุญเปโตร วันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1965 เรา เปาโล สังฆราชแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก
|