2. ประวัติศาสตร์ช่วงก่อน 'เรื่องราวของพระองค์'
เราอาจพูดถึงเหตุการณ์ก่อนประวัติศาสตร์ได้บางอย่าง ถึงเรื่องราวของพระเยซู ซึ่งย้อนหลังกลับไปก่อนที่เราจะมารู้จักพระนามของพระองค์ อันนี้เราหม
ายถึงการประทับอยู่ของพระวจนาถและพระจิตเจ้าซึ่งทรงประทับอยู่ตั้งแต่เริ่มมีประวัติศาสตร์ ดังเช่นพระพรายพระจิตเจ้าทรงกระทำการทั่วทุกหนแห่งในสากลโ ลก: ทรงพัดไปในที่ๆทรงพอพระทัย (ยน 3.8) พระจิตเจ้าทรงเสด็จมาเหนือกอร์เนลีอุสและครอบครัวของเขา
ก่อนที่พวกเขาจะได้รับศีลล้างบาปเสียอีก ซึ่งเป็นกา รแสดงว่า "พระเจ้าไม่ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง" (กจ 10.34) จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นผลบุญแห่งพระจิต (กท 5.22-23) ในชีวิตของคนนับไม่ถ้วนที่นับถือศาสนาอื่ น ซึ่ง "โดยอาศัยพระจิตเจ้า
ได้ทำลายกิจการของฝ่ายเนื้อหนัง" (รม 8.13) พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ได้ทรงกล่าวสรุปไว้ว่า "การประทับอยู่ของพระจิ ตเจ้าและการกระทำของพระองค์มีผลไม่เพียงต่อปัจเจกชกเท่านั้นแต่มีผลถึงสังคม ประวัติศาสตร์ ประชากร วัฒนธรรม และศาสนาด้วย" (RM 28) พระวจนาถก็เ ช่นเดียวกัน ได้ประทานปัญญาและความสว่างแก่ทุกคนตั้งแต่แรกเริ่ม (ยน 1.9) จนกระทั่ง "สุดท้ายพระองค์ได้ตรัสแก่เราทั้งหลายทางพระบุตร" (ฮบ 1.2) เหตุ ว่าพระวจนาถและพระจิตเจ้าเป็นประดุจพระหัตถ์สองข้างของพระบิดา กระทำการเป็นเอกภาพและกลมเกลียวสมานฉันท์กันเสมอ
หากพระวจนาถได้ทรงมีการติดต่อกับมนุษยชาติมาตั้งแต่แรก เราก็ควรหวังว่า เมื่อประชากรได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับพระวจนาถทรงบังเกิดมาเป็นมนุษย์ พวกเขาคงจะ "รับ" พระองค์ได้โดยทันที เชื่อในพระองค์ และตอบสนองต่อความปรารถนาที่อยู่ลึกลงไปในหัวใจ สมมุติฐานนี้ได้รับการยืนยันจากการตอบสนองอย่า งเป็นรูปธรรม ซึ่งผู้ที่นับถือศาสนาอื่นได้มอบให้และยังคงมอบให้ต่อไปแต่พระบุคคลและคำสั่งสอนของพระเยซู ความคิดข้อนี้ควรเป็นแรงบันดาลใจให้คริสตชนบ อกกล่าวเล่าเรื่องของพระเยซูให้แก่ผู้อื่นฟัง
สังคายนาวาติกัน 2 กล่าวไว้ว่า "โดยอาศัยการประกาศพระคริสตเจ้าให้เป็นที่ประจักษ์ พระศาสนจักรก็เผยความจริงถ่อ งแท้เกี่ยวกับสถานภาพและกระแสเรียกให้ประชากรทราบ" (AG 8)
ความเร้นลับเกี่ยวกับพระผู้ไถ่ ซึ่งมีอยู่อย่างอุดมในบางภาคของเอเชียนั้นอาจตีความได้ว่าเป็น "การรอคอยที่แสวงหา" นั่นคือ คาดการณ์ล่วงหน้า แสวงหา ค้นคว้าประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระผู้ไถ่ ผู้ทรงเป็นทั้งพระและมนุษย์ ซึ่งทำให้จุดหมายปลายทางขอ งมนุษย์สำเร็จบริบูรณ์ อาศัยไม้กางเขนและการกลับคืนชีพของพระองค์ ในความหมายนี้ พระคริสตเจ้าคือ "ความหวังของนานาชาติ" |