|
|
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - |
หน้าที่ธรรมทูตของฆราวาส 41.ฆราวาสร่วมมือในงานของพระศาสนจักร คือ การแพร่ข่าวดี และมีส่วนในงานช่วยมนุษย์ให้รอดในฐานะที่ตนเป็นองค์พยานและเป็นเครื่องมืออันมีชีวิต โดยเฉพาะถ้าพระเป็นเจ้าทรงเรียกและพระสังฆราชรับเขาให้มาทำงานนี้ ในดินแดนที่มีคริสตชนแล้ว ฆราวาสร่วมมือในงานแพร่ข่าวดี โดยส่งเสริมให้ตนเองและคนอื่นรู้จักมิสซัง โดยทำให้เกิดกระแสเรียกขึ้นในครอบครัวของตนเองหรือในบรรดาสมาคมคาทอลิกและโรงเรียน และโดยถวายเงินอุดหนุนจุนเจือทุกประเภทเพื่อให้คนอื่นได้รับความเชื่อบ้าง เหมือนกับที่ตนเองได้รับมาเปล่าๆ ในดินแดนมิสซัง ฆราวาสไม่ว่าจะเป็นชาวต่างด้าวหรือคนพื้นเมือง ต้องทำการสอนในโรงเรียน ดำเนินกิจการงานทางโลก ร่วมมือในงานของสังฆตำบลและของสังฆมณฑล จัดตั้งและส่งเสริมงานแพร่ธรรมของฆราวาสแบบต่างๆ เพื่อให้สัตบุรุษในพระศาสนจักรใหม่ได้มีส่วนในชีวิตของพระศาสนจักรโดยเร็วที่สุด ที่สุดฆราวาสต้องเต็มใจให้ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและสังคมแก่ชนชาติต่างๆ ที่กำลังพัฒนา การร่วมมือเช่นนี้เป็นสิ่งน่าชมเชย เป็นต้นเพราะมุ่งจะตั้งสถาบันที่มีโครงสร้างขันพื้นฐานของชีวิตสังคม หรือมุ่งที่จะอบรมคนที่มีความรับผิดชอบต่อกิจการบ้านเมือง ผู้ที่สมได้รับคำชมเชยเป็นพิเศษก็คือ คนที่ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิชาความรู้ทำการค้นคว้าทางประวัติศาสตร์หรือทางวิชาความรู้และศาสนา ทำให้รู้จักชนชาติและศาสนาต่างๆ ดียิ่งขึ้น นับเป็นการช่วยเหลือผู้ประกาศข่าวดีและเตรียมการติดต่อเจรจากับคนที่มิใช่คริสตศาสนิกชน ฆราวาสต้องร่วมมืออย่างฉันพี่น้องกับคริสตชนและกับคนที่มิใช่คริสตชน โดยเฉพาะกับสมาชิกของสมาคมระหว่างชาติต่างๆ โดยระลึกอยู่เสมอว่า "การสร้างนครในโลกนี้ขึ้นต้องสร้างบนพระคริสตเจ้า และต้องมุ่งไปหาพระองค์" เพื่อปฏิบัติงานนี้ทั้งหมด ฆราวาสต้องได้รับการตระเตรียมทางวิชาการและจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นละเว้นมิได้และต้องได้รับในสถาบันพิเศษ เพื่อใช้ชีวิตเป็นการประกาศพระคริสตเจ้าในหมู่คนที่มิใช่คริสตชน ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวว่า "อย่าทำสิ่งใดให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก หรือชุมชนของพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามกระทำทุกสิ่งเพื่อเป็นที่พอใจของทุกคน มิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแต่เห็นแก่ประโยชน์ของทุกคนเพื่อเขาจะได้รับความรอดพ้น" (1 คร 10:32-33) |