|
|
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - |
ส่งเสริมงานแพร่ธรรมของฆราวาส 21.ถ้ายังไม่มีคณะฆราวาสที่เป็นฆราวาสจริงๆ ทำงานร่วมกับพระฐานานุกรม ก็ถือว่าพระศาสนจักรยังไม่ได้ตั้งขึ้นอย่างแท้จริง ยังไม่มีชีวิตอย่างเต็มที่และยังไม่เป็นเครื่องหมายอันสมบูรณ์ชี้บอกพระคริสตเจ้าในหมู่มนุษย์ ข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้าจะหยั่งรากลึกลงไปในจิตใจ ชีวิต และงานของชาติใดชาติหนึ่งไม่ได้ ถ้าไม่มีฆราวาสทำงานอย่างขยันขันแข็ง ดังนั้นในการตั้งพระศาสนจักรแห่งหนึ่ง จะต้องพยายามอย่างที่สุดที่จะให้มีฆราวาสคริสตชนหมู่หนึ่งที่รู้เข้าใจศาสนาอย่างถ่องแท้ ฆราวาสที่เป็นสัตบุรุษนั้นเป็นทั้งคนในประชากรของพระเป็นเจ้าและเป็นทั้งคนในสังคมของบ้านเมืองอย่างสมบูรณ์ เขาเป็นคนในชาติที่เขาได้เกิดมา; เขาเริ่มมีส่วนในขุมสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติด้วยการศึกษาอบรม เขามีพันธะทางสังคมหลายรูปหลายแบบผูกพันอยู่กับชีวิตของชาติ เขามีส่วนร่วมในความเจริญของชาติด้วยความมานะอุตส่าห์ในเอเชียของแต่ละคน เขารู้สึกว่าปัญหาของชาติก็คือปัญหาของตนเองและเขาก็พยายามที่จะแก้ เขาเป็นคนของพระคริสตเจ้าด้วยเพราะได้เกิดใหม่ในพระศาสนจักรด้วยความเชื่อและศีลล้างบาปเพื่อเป็นของพระคริสตเจ้า (เทียบ 1 คร.15:23) ด้วยชีวิตและกิจการใหม่ และเพื่อให้ทุกสิ่งนอบน้อมต่อพระเป็นเจ้าในพระคริสตเจ้า และที่สุดเพื่อให้พระเป็นทุกสิ่งในทุกคน (เทียบ 1 คร.15:28) หน้าที่สำคัญของฆราวาสทั้งหญิงและชาย ก็คือ การเป็นองค์พยานประกาศพระคริสตเจ้า ซึ่งเขาต้องทำด้วยการดำรงชีวิตและคำพูดในครอบครัว ในกลุ่มสังคม และในวงงานอาชีพ เพราะว่าในตัวเขาเหล่านั้นจะต้องปรากฏตัวมนุษย์คนใหม่ซึ่งสร้างขึ้นด้วยความเที่ยงธรรมและความศักดิ์สิทธิ์อันแท้จริงตามแบบพระเป็นเจ้า (เทียบ อฟ. 4:24) เขาต้องสำแดงให้เห็นชีวิตใหม่ในวงสังคมและวัฒนธรรมของบ้านเมืองตามประเพณีนิยมของชาติ เขาต้องรู้จักวัฒนธรรมที่กล่าวนี้ ต้องชำระให้บริสุทธิ์บำรุงรักษาให้งอกงามตามสถานการณ์ใหม่ ทำให้สมบูรณ์ดีพร้อมในพระคริสตเจ้า แล้วดังนี้ความเชื่อถือพระคริสตเจ้ากับชีวิตของพระศาสนจักรก็จะไม่ใช่สิ่งที่สังคมซึ่งเขามีชีวิตอยู่ไม่รู้จักอีกต่อไป แต่จะซึมซาบเข้าไปในสังคมและทำให้สังคมนั้นเปลี่ยนแปลงไป ฆราวาสต้องร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อร่วมชาติด้วยความรักอย่างจริงใจ เพื่อให้พันธะใหม่ที่ต้องร่วมใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั่วไปตามที่รหัสธรรมเรื่องพระคริสตเจ้าสอนนั้นปรากฏในความประพฤติของเขา ฆราวาสยังต้องถ่ายเทความเชื่อถึงพระคริสตเจ้าในหมู่ผู้ที่ตนผูกพันอยู่ด้วยชีวิตและอาชีพพันธะอันนี้ผูกมัดมากยิ่งขึ้นตามส่วนที่มนุษย์เป็นจำนวนมากมายเหลือหลายไม่มีทางจะได้ยินข่าวดีหรือรู้จักพระคริสตเจ้า นอกจากอาศัยฆราวาสที่อยู่ใกล้ชิดเขา ยิ่งกว่านั้นในที่ที่สามารถทำได้ ฆราวาสต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดกว่ากับพระฐานานุกรมสรรพพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจพิเศษ ที่จะประกาศข่าวดีและเผยแพร่คำสอนคริสตชน เพื่อทำให้พระศาสนจักรที่เริ่มเกิดนั้นเข้มแข็งขึ้น ศาสนบริกรของพระศาสนจักรต้องยกย่องถือการแพร่ธรรมอันยากลำบากของฆราวาสเป็นสิ่งมีค่าสูง ต้องอบรมฆราวาสให้สำนึกถึงความรับผิดชอบของเขาต่อมนุษย์ทุกคนในฐานะเป็นอวัยวะของพระคริสตเจ้า ต้องสอนให้เขารู้ซึ้งในรหัสธรรมเรื่องพระคริสตเจ้า แนะให้เขาใช้วิธีปฏิบัติและอยู่ร่วมกับเขาโดยความยากลำบากตามแนวคิดของพระสังฆธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักร และพระสมณกฤษฎีว่าด้วยการแพร่ธรรมของฆราวาส เมื่อผู้อภิบาลสัตบุรุษและฆราวาสต่างถือหน้าที่และความรับผิดชอบแล้ว พระศาสนจักรใหม่ทั้งมวลต้องเป็นองค์พยานประกาศพระคริสตเจ้าอย่างขันแข็งมั่นคงเพื่อจะได้เป็นเครื่องหมายอันเด่นชัดแห่งความรอดซึ่งมาถึงเราในพระคริสตเจ้า |