|
|
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - |
ข้อสาม : การก่อตั้งประชาคมคริสตชน 15.เมื่อพระจิตทรงเรียกมนุษย์ทุกคนให้มาหาพระคริสตเจ้าโดยใช้เมล็ดพืชหว่านของพระวจนาถ และการประกาศข่าวดีนั้นพระองค์ทรงทำให้จิตใจของเขาอ่อนน้อมรับความเชื่อ และเมื่อโปรดให้ผู้ที่เชื่อถึงพระคริสตเจ้าเกิดใหม่ในอ่างน้ำล้างบาป พระองค์ก็ทรงรวบรวมเขาให้มาเป็นประชากรของพระเป็นเจ้าแต่พวกเดียว ซึ่งเป็น "เป็นชาติที่ทรงเลือกสรรไว้ เป็นสมณราชตระกูล เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ เป็นประชากรที่เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของพระเจ้า" (1 ปต. 2:9) ฉะนั้นบรรดาธรรมทูตซึ่งเป็นผู้ร่วมมือกับพระเป็นเจ้า (เทียบ 1 คร.3:9) ต้องก่อตั้งหมู่คณะสัตบุรุษขึ้นในลักษณะที่สามารถดำรงอยู่ได้โดยเหมาะสมกับกระแสเรียกที่ได้รับ (เทียบ อฟ.4:1) หมายความว่าสามารถทำหน้าที่ที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้ คือหน้าที่พระสงฆ์ ประกาศก และกษัตริย์ ด้วยวิธีนี้แหละประชาคมคริสตชนจึงเป็นเครื่องหมายแสดงว่าพระเป็นเจ้าสถิตอยู่ในโลก แท้จริงด้วยการถวายบูชามิสซา ประชาคมคริสตชนผ่านไปถึงพระบิดาพร้อมด้วยพระคริสตเจ้ามิรู้หยุด เมื่อได้รับความเอาใจใส่เลี้ยงดูด้วยพระวาจาของพระเป็นเจ้า ประชาคมนั้นก็เป็นองค์พยานประกาศพระคริสตเจ้า ที่สุดก็ก้าวย่างไปในความรักและร้อนแรงด้วยจิตตารมณ์ของการแพร่ธรรม ตั้งแต่แรกเริ่มทีเดียว ประชาคมคริสตชนจะต้องขึ้นในลักษณะที่สามารถจะเลี้ยงตัวเองเท่าที่จะกระทำได้ กลุ่มสัตบุรุษนี้ซึ่งมีคุณสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติตนเอง จะต้องหยั่งรากลึกลงไปในหมู่ประชาชน; ครอบครัวต่างๆ จะต้องเจริญงอกงาม ดื่มด่ำไปด้วยจิตตารมณ์ของพระวรสาร และมีโรงเรียนที่เหมาะสมช่วย, ต้องจัดตั้งสมาคมและกลุ่มต่างๆขึ้น เพื่อฆราวาสผู้แพร่ธรรมจะได้ใช้สำหรับแทรกจิตตารมณ์แห่งพระวรสารเข้าไปในทุกสังคม ที่สุดในระหว่างชาวคาทอลิกที่ถือจารีตต่างกัน จะต้องมีความรักต่อกันอย่างอบอุ่นที่สุด จะต้องหล่อเลี้ยงให้เกิดจิตตารมณ์สากลภาพนิยมให้หมู่คนกลับใจใหม่ด้วย คนกลับใจใหม่เหล่านี้ต้องคิดอย่างถูกต้องว่าขึ้นชื่อว่าพี่น้องที่เชื่อถึงพระคริสตเจ้าแล้วก็ล้วนเป็นศิษย์ของพระองค์ที่เกิดใหม่ด้วยศีลล้างบาป และเป็นผู้มีส่วนรับพระคุณมากมายที่ประชากรของพระเป็นเจ้าได้รับ เท่าที่สถานการณ์ทางศาสนาจะอำนวยให้ทำได้ ให้จัดให้มีกิจการสากลภาพนิยมในลักษณะที่ชาวคาทอลิกจะไม่สำแดงความไม่สนใจใยดีหรือความขวยเขินหรือความแข่งขันชิงดีน่าเกลียดอย่างใดทั้งสิ้น และให้ร่วมมือกับพี่น้องที่แตกแยกออกไปจากเราตามที่บัญญัติในพระสมณกฤษฏีกาว่าด้วยสากลภาพนิยม โดยสำแดงความเชื่อร่วมกันถึงพระเป็นเจ้าและพระเยซูคริสตเจ้าต่อหน้านานาชาติเท่าที่สามารถจะทำได้ และโดยร่วมมือในปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสังคมวิชาการ วัฒนธรรม และศาสนา ขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันเป็นต้น เพราะเห็นว่าพระคริสตเจ้าทรงเป็นเจ้านายของตนร่วมกันและขอให้พระนามของพระองค์รวมทั้งสองฝ่ายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การร่วมมือกันเช่นนี้ไม่ควรจะมีขึ้นในระหว่างเอกชนเท่านั้น แต่ความเห็นดีเห็นชอบของสมณะผู้ปกครองท้องที่ควรมีขึ้นในระหว่างพระศาสนจักรหรือกลุ่มพระศาสนจักรของทั้งสองฝ่ายและในระหว่างกิจการของทั้งสองฝ่ายด้วย คริสตศาสนิกชน ซึ่งมาจากชนทุกชาติและเข้ามารวมอยู่ในพระศาสนจักรนั้นไม่ต่างกับคนอื่น ทั้งในเรื่องการปกครองบ้านเมือง ในเรื่องภาษา และในเรื่องสถาบันการเมือง เพราะฉะนั้นคริสตศาสนิกชนต้องดำรงชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้าและพระคริสตเจ้าตามขนบประเพณีและความประพฤติในประเทศของตนเพื่อแสดงความรักต่อชาติบ้านเกิดในฐานะพลเมืองดีอย่างแท้จริง ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องดูหมิ่นชาติอื่นและรักชาติตนอย่างหลงใหลแต่ควรส่งเสริมความรักต่อมนุษย์ทั่วไป เพื่อจะบรรลุถึงผลที่กล่าวนี้ ผู้ที่มีความสำคัญที่สุดและสมจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ ฆราวาส หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งสัตบุรุษคริสตชนที่ได้รวมเข้ากับพระคริสตเจ้าด้วยศีลล้างบาปแล้วดำรงชีวิตอยู่ในโลก โดยที่เขาเปี่ยมเต็มด้วยพระจิตของพระคริสตเจ้าเป็นหน้าที่โดยเฉพาะของเขาที่จะเป็นดังเชื้อแป้งปลุกกิจการฝ่ายโลกให้มีชีวิตจากภายใน แล้วจัดให้เป็นไปตามที่พระคริสตเจ้าทรงพอพระทัยเสมอ แต่ถึงกระนั้น การที่ประชากรคริสตชนดำรงตั้งอยู่ในชาติใดชาติหนึ่งยังไม่พอ และการที่ประชากรนั้นทำการแพร่ธรรมโดยเป็นแบบฉบับก็ยังไม่พอ ประชากรคริสตชนดำรงอยู่และตั้งอยู่ก็เพื่อจุดหมายข้อนี้คือ ประกาศพระคริสตเจ้าแก่คนร่วมชาติที่มิใช่คริสตชนด้วยคำพูดและด้วยกิจการ แล้วช่วยเขารับองค์พระคริสตเจ้าอย่างเต็มที่ อนึ่งเพื่อปลูกฝังพระศาสนจักรและพัฒนาประชาคมคริสตชน จำเป็นต้องมีพนังงานหน้าที่ต่างๆ พนักงานหน้าที่เหล่านั้น พระเป็นเจ้าเป็นผู้ทรงบันดาลให้เกิดขึ้นจากภายในที่ชุมนุมสัตบุรุษนั้นเอง ทุกคนจะต้องเคารพและส่งเสริมด้วยความเอใจใส่อย่างกระตือรือร้น ในบรรดาพนักงานหน้าที่เหล่านี้ ก็มีหน้าที่ของพระสงฆ์ ของสังฆานุกร และของผู้สอนคำสอนและกิจการคาทอลิก ในทำนองเดียวกัน เมื่อสวดภาวนาหรือทำงานเสียสละ นักบวชทั้งชายและหญิงก็เท่ากับปฏิบัติภาระหน้าที่อันจำเป็นอย่างเด็ดขาดสำหรับฝังรากอาณาจักรของพระคริสตเจ้าลงในใจมนุษย์ ทำให้มั่นคงแข็งแรงและแผ่ขยายให้ไกลออกไป |