|
|
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - |
ข้อหนึ่ง : การเป็นองค์พยานของคริสตชน การเป็นองค์พยานด้วยการดำรงชีวิตและการติดต่อกัน 11. พระศาสนจักรต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มชนเหล่านี้ โดยมีลูกของพระศาสนจักรอยู่ในกลุ่มชนนั้นแล้ว หรือส่งไปหากลุ่มชนนั้น เพราะคริสตชนทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใดต้องเจริญชีวิตเป็นฉบับดี และเป็นองค์พยานด้วยคำพูดแสดงว่าเขาเป็นคนใหม่เมื่อรับศีลล้างบาปและมีพละกำลังของพระจิตเมื่อรับศีลกำลัง ดังนี้เมื่อคนทั้งหลายเห็นกิจการดีของเขา จะได้สรรเสริญพระบิดา (เทียบ มธ 5:16)จะได้เข้าใจความหมายแท้จริงของชีวิตมนุษย์กับความเกี่ยวโยงผูกพันระหว่างมนุษย์ทั่วไปดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะเป็นองค์พยานประกาศพระคริสตเจ้าอย่างได้ผลดี คริสตชนต้องรวมเข้ากับคนเหล่านี้โดยให้ความเคารพยกย่องและรักเขา ถือว่าตนเป็นสมาชิกในกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ด้วย มีส่วนร่วมในชีวิตทางวัฒนธรรมและสังคมโดยทำการติดต่อคบค้าและธุรการงานในชีวิตมนุษย์ ต้องสนิทคุ้นเคยกับประเพณีนิยมทางชาติและศาสนาของเขา ต้องรู้จักค้นพบพืชพันธุ์ของพระคริสตเจ้าที่ซ่อนอยู่ในประเพณีนิยมเหล่านั้นด้วยความชื่นชมและเคารพ ในขณะเดียวกันต้องเอาใจใส่เฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งที่เกิดขึ้นในหมู่ชนชาติต่างๆ และดำเนินการอย่าให้มนุษย์ในสมัยของเราที่หลงวิทยาศาสตร์ และวิชาการของโลกปัจจุบันจนเกินไปหันเหไปจากเรื่องของพระเป็นเจ้าเสีย ตรงกันข้ามควรพยายามให้เขาเกิดมีความปรารถนาร้อนรนขึ้นที่จะรับรู้ความจริงและความรักที่พระเป็นเจ้าทรงเผยให้เราทราบ พระคริสตเจ้าเองทรงหยั่งดูจิตใจของมนุษย์และทรงนำเขามาถึงความสว่างของพระเป็นเจ้า โดยตรัสสนทนากับเขาอย่างฉันเพื่อนมนุษย์จริงๆ ในทำนองเดียวกัน ศิษย์ของพระองค์ซึ่งดื่มด่ำด้วยพระจิตต้องรู้จักมนุษย์ที่ตนดำรงอยู่ด้วยกันและสนทนาสังสรรค์กับเขา เพื่อเขาจะได้รู้ในการสนทนากันอย่างจริงใจ และอดทนด้วยว่า พระเป็นเจ้าทรงมีพระทัยดีจ่ายแจกพระคุณอันเลอเลิศอะไรแก่ชนชาติต่างๆ บ้าง ในขณะเดียวกันต้องพยายามใช้ความสว่างจากข่าวดีเรื่องพระคริสตสอดส่องดูพระคุณเหล่านี้ ช่วยให้หลุดพ้นและนำกลับมาอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้าพระผู้ไถ่ |