|
|
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - |
ภารกิจของพระบุตร 3. อันแผนการทั่วไปของพระเป็นเจ้าที่จะช่วยมนุษยชาติให้รอดนี้มิใช่สำเร็จไปโดยวิธีเหมือนอย่างลับๆ ในวิญญาณของมนุษย์ หรือโดยความดำริริเริ่มแม้ที่ศรัทธา ซึ่งอาศัยความดำริริเริ่มที่กล่าวนี้ มนุษย์แสวงหาพระเป็นเจ้าโดยหลายวิธี เพื่อบางที่จะบรรลุถึงและพบพระองค์แม้ว่าพระองค์ไม่อยู่ห่างไกลจากเราแต่ละคน (เทียบ กจ 17:27) เพราะความดำริริเริ่มเหล่านี้ต้องได้รับการแนะนำและดัดแปลง แม้ว่าโดยพระดำริอันเมตตาของพระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้า บางครั้งเราอาจจะถือเป็นการมุ่งไปหาพระเจ้าเที่ยงแท้หรือเป็นการเตรียมรับข่าวดีก็ตาม เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติสุข หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเพื่อกระชับความร่วมสนิทกับพระองค์ เพื่อตั้งภราดาภาพขึ้นในระหว่างมนุษย์ซึ่งเป็นคนบาป พระเป็นเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะเจ้ามามีบทบาทในประวิติศาสตร์ของมนุษย์โดยวิธีใหม่และเด็ดขาด โดยทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาเกิดเป็นมนุษย์อย่างเรา เพื่อฉุดเราให้พ้นจากอำนาจของความมืดและของซาตาน (เทียบ คส.1:13,กจ : 10:38) และทำให้โลกคืนดีกับพระองค์ (เทียบ 2 คธ 5:19) โดยพระบุตร พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งมาพระบุตรองค์นี้พระองค์ทรงตั้งให้เป็นทายาทรับทุกสิ่งเพื่อจะได้บูรณะทุกสิ่งขึ้นในพระบุตร (เทียบ อฟ 1:10) พระเป็นเจ้าทรงส่งพระเยซูคริสตเจ้ามาในโลกนี้เพื่อเป็นองค์กลางอย่างแท้จริงระหว่างพระเป็นเจ้ากับมนุษย์ โดยที่พระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้า พระเทวภาพอย่างเต็มครบถ้วนจึงดำรงอยู่ในพระวรกายของพระองค์ (คส.2:9) ในพระธรรมชาติฝ่ายมนุษย์พระองค์ทรงทรงเป็นอาดัมคนใหม่ รับแต่งตั้งให้เป็นประมุขของชาติมนุษย์เกิดใหม่ เพียบพร้อมไปด้วยพระหรรษทานและความสัตย์จริง (ยน 1:14) เพราะเหตุนี้ โดยการรับเอากายเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง พระบุตรแห่งพระเจ้าได้เสด็จมาทำให้มนุษย์มีส่วนในพระธรรมชาติของพระเป็นเจ้า พระองค์ได้ทรงทำตนเป็นคนยากไร้ในเมือพระองค์ทรงเป็นผู้มั่งคั่ง เพื่อทำให้เราร่ำรวยด้วยความยากแค้นของพระองค์ (2 คร 8:9) บุตรมนุษย์ไม่ได้เสด็จมาให้คนอื่นรับใช้ แต่เพื่อรับใช้คนอื่น และพลีชีพเพื่อไถ่คนเป็นอันมากคือทุกคน (เทียบ มก 10 :45)บรรดาปิตาจารย์แห่งพระศาสนจักรประกาศอยู่เสมอว่า สิ่งใดที่พระคริสตเจ้ายังมิได้ทรงรับเอาไว้ สิ่งนั้นก็ยังไม่หายดีเป็นปกติ อันว่าพระองค์ทรงรับเอาธรรมชาติมนุษย์อย่างแท้จริง อย่างที่มีอยู่ในตัวเราซึ่งเป็นผู้น่าสมเพช และยากแค้นแต่ทว่าธรรมชาติมนุษย์ในตัวพระองค์หามีบาปไม่ (เทียบ ฮบ 4:15;9:28) พระคริสตเจ้าซึ่งพระบิดาทรงอภิเษกและส่งมาในโลกนี้ (เทียบ ยน 10:36) ได้ตรัสถึงพระองค์เองว่า "พระจิตของพระเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ" (ลก 4:18) และยังตรัสอีกว่า "บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและเพื่อช่วยผู้ที่เสียไปให้รอดพ้น (ลก 19:10) สิ่งใดที่ครั้งหนึ่งพระคริสตเจ้าทรงประกาศเทศนา หรือกระทำในตัวพระองค์เพื่อความรอดของมนุษยชาติ สิ่งนั้นจึงต้องประกาศและแพร่ไปจนสุดแดนพิภพ (กจ 1:8) โดยเริ่มจากกรุงเยรูซาแลม (เทียบ ลก 24:47) ดังนี้สิ่งที่ครั้งหนึ่งได้กระทำเพื่อความรอดของทุกคนจะบังเกิดผลสำหรับทุกคน ตลอดเวลาทุกยุกสมัย |